Oxytocin ฮอร์โมนแห่งความรักและความผูกพัน

ความรู้สึกถูกรักและได้รับการโอบกอดด้วยความรักมีหน้าตายังไงนะ?

ความอบอุ่นที่เราได้รับความรักจากคนที่เรารัก ไม่ว่าจะเป็นคนรัก พ่อแม่ ครอบครัว เพื่อน หรือใครก็ตาม ทำให้เรารู้สึกถึงพลังงานที่ดีอย่างน่าประหลาดใจ และทำให้เรารู้สึกรัก สนิทใจ และเชื่อใจกลุ่มคนเหล่านี้อย่างสุดหัวใจ แต่รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังความรู้สึกแสนอบอุ่นนี้ เกิดจากการหลั่งฮอร์โมนตัวหนึ่งที่ช่วยทำให้ความผูกพันในใจเราแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นั่นก็คือ ฮอร์โมน Oxytocin

Oxytocin คืออะไร?

Oxytocin หรือ อ็อกซิโทซิน เป็นฮอร์โมนประเภทหนึ่งที่อยู่ภายในร่างกายเรา ผลิตขึ้นโดยไฮโปไทลามัส (Hypothalamus) จากนั้นจึงส่งต่อให้ต่อมใต้สมองของในการช่วยส่ง Oxytocin เข้าสู่เลือดของเราเพื่อไปทำหน้าที่ต่อไป Oxytocin เป็นฮอร์โมนที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เราเกิด เนื่องจากหนึ่งในหน้าที่ของมันคือการที่ช่วยให้คุณแม่ของเรามีแรงคลอดลูกได้มากยิ่งขึ้น และทำให้การคลอดลูกเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้นอีกด้วย อีกทั้ง Oxytocin ยังมีหน้าที่ช่วยทำให้สายสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้นผ่านกระบวนการให้นมอีกด้วย

นอกจาก Oxytocin ยังส่งผลต่อคนอื่นที่เรามีสายสัมพันธ์แสนพิเศษด้วยนั่นเอง ซึ่งนั่นก็คือ มันเป็นฮอร์โมนที่ช่วยสร้างความผูกพัน นั่นเอง จนได้ชื่อเรียกอีกชื่อว่าเป็น ฮอร์โมนแห่งความรัก (Love Hormone) จะยิ่งหลั่งมากขึ้นเมื่อเราได้ใช้เวลากับคนที่เรารัก หรืออาจจะเป็นเพื่อนร่วมรักช่วยแก้เหงาก็ทำให้ Oxytocin หลั่งได้เช่นกัน 

จากคุณสมบัติของ Oxytocin ข้างต้น อาจทำให้เราเข้าใจว่า Oxytocin เป็นฮอร์โมนที่มีบทบาทเกี่ยวกับความรู้สึกดี ๆ เท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว Oxytocin มีบทบาทมากกว่านั้น จากงานวิจัยพบว่า ในผู้คนที่ปลีกตัวและไม่ได้เข้าสังคม รวมถึงในผู้หญิงที่ห่างหายจากความสัมพันธ์หรือไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรัก ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ยังส่งผลให้เกิดความเครียด และมีปริมาณคอร์ติซอล (Cortisol) ในปริมาณที่สูงขึ้น ก็ยังพบปริมาณ Oxytocin ในปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ซึ่งเป็นไปได้ว่า Oxytocin ยังมีหน้าที่ในการช่วยให้ผู้คนรู้สึกยึดโยงกับสังคม และรู้สึกถึงความผูกพันอยู่อีกด้วย อันเป็นส่วนสำคัญทำให้มนุษย์เราจัดการกับความรู้สึกที่ต้องห่างเหินจากสังคมและผู้คนได้ดีขึ้น และทำให้เราขวนขวายที่จะออกไปพบผู้คนและสังคมข้างนอกมากขึ้นด้วย 

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อระดับของ Oxytocin ไม่คงที่ 

อะไรที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปมักเป็นสิ่งที่ไม่ดีทั้งนั้น รวมถึงปริมาณของฮอร์โมนอย่าง Oxytocin ด้วย การที่มีปริมาณน้อยเกินไปอาจเกิดจากปัจจัยของโรคทางจิตเวช เช่น โรคซึมเศร้าและกลุ่มโรคออทิสติก ซึ่งอาจเกิดจากการที่ร่างกายผลิตฮอร์โมน Oxytocin ได้น้อยลงเอง ซึ่งส่งผลต่อสภาพอารมณ์และความรู้สึกได้โดยตรง เช่น ทำให้รู้สึกเศร้า ไม่พึงพอใจในชีวิต รวมถึงทำให้รู้สึกไม่ดีต่อการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอีกด้วย อาทิ ไม่กล้าเชื่อใจคนอื่น หรือไม่สามารถสร้างความสนิทสนมได้

ในขณะเดียวกัน หากมีปริมาณ Oxytocin มากเกินไป อาจเกิดจากการที่ร่างกายรู้สึกตึงเครียดจากการขาดปฏิสัมพันธ์และการขาดการเข้าสังคม ร่างกายจึงหลั่ง Oxytocin เพื่อมาทดแทนความรู้สึกที่ขาดหายไป และทำให้เรารู้สึกตื่นตัวที่จะออกไปเข้าร่วมสังคมและสร้างปฏิสังคมใหม่ ๆ มากขึ้นนั่นเอง

วิธีรักษาระดับ Oxytocin  

1. ใช้เวลากับคนที่รักและไว้ใจ

เนื่องจากฮอร์โมน Oxytocin จะหลั่งมากขึ้นเมื่อเราได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนที่เรารักและไว้ใจ ดังนั้น เราควรมีการแบ่งเวลาไปใช้กับคนกลุ่มนี้ให้มากขึ้น นอกจากจะช่วยเพิ่ม Oxytocin ได้แล้ว ยังเป็นการได้ร่วมใช้เวลาที่ดีด้วยกัน และเป็นการเพิ่มความสนิทสนมและความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันได้ด้วย และจากงานวิจัยยังพบว่า การได้ร้องเพลงกับกลุ่มคนเหล่านี้ ยังช่วยเพิ่ม Oxytocin ได้อีกด้วย เนื่องจากดนตรีเป็นตัวช่วยกระตุ้นการหลั่ง Oxytocin ได้เช่นเดียวกัน

2. ออกกำลังกาย

จากงานวิจัยพบว่า มีปริมาณ Oxytocin ในน้ำลายเพิ่มสูงขึ้นหลังจากที่ไปออกกำลังกายอย่างหนักมาก โดยจำเป็นต้องเป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูง ทำให้เหงื่อไหลออกหนัก ๆ ไปเลย ถึงจะช่วยเพิ่มปริมาณได้ Oxytocin 

3. ทานยาเพิ่มเติม

บางคนที่มีประจำตัวเป็นโรคทางจิตเวชหรือคุณแม่หลังคลอดที่มีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดอาจมีข้อจำกัดทางด้านร่างกายที่ไม่สามารถผลิต Oxytocin ในปริมาณที่เหมาะสมได้ จึงอาจจำเป็นที่จะต้องทานยาเพิ่มเติม โดยมีทั้งยาที่เป็นเม็ดและเป็นสเปรย์ที่สามารถช่วยลดความรู้สึกวิตกกังวลและอาการซึมเศร้าได้

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ฮอร์โมนในร่างกายอย่าง Oxytocin มีความสำคัญทั้งต่อร่างกาย สภาพจิตใจ รวมถึงสภาพสังคมรอบ ๆ ตัวเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากมันจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้น จิตใจได้สัมผัสถึงความรักและความห่วงใยมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่เรามีต่อผู้อื่นอีกด้วย ดังนั้นแล้ว เราควรดูแลร่างกายเราให้แข็งแรงและอยู่ในภาวะที่ดีอยู่เสมอ เพื่อให้ Oxytocin ทำงานได้อย่างเป็นปกติ เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขในทุก ๆ วันด้วยนั่นเอง

อ้างอิง

DeAngelis, T. (n.d.). The two faces of oxytocin. https://www.apa.org.

Oxytocin: The love hormone. (2023, June 13). Harvard Health.