บทความที่เกี่ยวข้อง
ในปัจจุบัน การดูแลสุขภาพจิตสามารถทำได้หลายวิธี หนึ่งในนั้นคือ “ศิลปะบำบัด” หรือ Art Therapy ซึ่งเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพจิตอย่างหนึ่งที่ใช้ศิลปะในการเป็นสื่อกลาง ด้วยความที่ศิลปะเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ศิลปะบำบัดจึงเป็นกิจกรรมที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นไปตาม ๆ กัน แต่สิ่งที่ควรระวังในการทำศิลปะบำบัด คือ “ศิลปะบำบัดจำเป็นต้องดำเนินการด้วยบุคลากรด้านสุขภาพจิตเท่านั้น” จะเป็นเพราะอะไรนั้น มีคำตอบอยู่ในบทความนี้
Art Therapy ศิลปะบำบัด คืออะไร?
Art Therapy ศิลปะบำบัด เป็นการบำบัดรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือและกระบวนการบำบัดทางจิตวิทยาเข้าด้วยกัน ซึ่งในการบำบัดจะมีการประเมินความเหมาะสมของผู้เข้ารับบำบัดแต่ละคนว่าควรใช้วิธีการไหนและหลักการใดร่วมกับการบำบัด นอกจากนี้ ในส่วนของจำนวนคน ศิลปะบำบัดมักจัดเป็นการบำบัดแบบกลุ่ม (Group Therapy) ในส่วนสื่อของศิลปะที่ใช้ในศิลปะบำบัดมีหลากหลายรูปแบบด้วยเช่นกัน ทั้งการวาด การระบายสี การปั้น การตัดแปะภาพ (Collage) เป็นต้น
ทำไม Art Therapy ศิลปะบำบัด จำเป็นต้องมี “บุคลากรด้านสุขภาพจิต”
เพราะศิลปะบำบัดคือการบอกเล่าและเปิดเผยเรื่องราวภายในจิตใจผ่านศิลปะ ซึ่งนับเป็นกระบวนการทางจิตวิทยารูปแบบหนึ่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการบำบัดรู้สึกดีขึ้น การทำศิลปะบำบัดจึงนับว่าเป็นกระบวนการที่มีความละเอียดอ่อนอย่างมาก และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของบุคลากรด้านสุขภาพจิต เพราะบุคลากรด้านสุขภาพจิตคือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ความชำนาญการ และมีทักษะทางจิตวิทยาที่จำเป็นต่อการทำศิลปะบำบัด โดยบุคลากรด้านสุขภาพจิตที่ทำศิลปะได้นั้น ต้องมีการฝึกฝนและเก็บชั่วโมงบินเพื่อให้มีประสบการณ์ที่มากพอในการช่วยเหลือผู้คน
ทั้งนี้ทั้งนั้น บุคลากรด้านสุขภาพจิตแต่ละคนก็จะมีความเชี่ยวชาญในการดูแลปัญหาแต่ละด้านแตกต่างกันไป เช่น บางคนอาจมีความเชี่ยวชาญในประเด็นครอบครัว หรือความสัมพันธ์ ซึ่งเราสามารถเลือกนักจิตวิทยาที่ตรงกับปัญหาที่เรามีได้
ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น หากไม่ได้เข้ารับการทำบำบัดจาก “บุคลากรด้านสุขภาพจิต”
หากต้องการเข้าร่วมการทำศิลปะบำบัด แต่ไม่ได้รับการดูแลจากบุคลากรด้านสุขภาพจิตโดยตรง ความเสี่ยงโดยตรงที่เกิดขึ้นคือ การสร้างบาดแผลทางจิตใจ เพราะผู้ดำเนินกิจกรรมอาจมีการจัดการกิจกรรมที่ไม่ได้ใช้กระบวนการทางจิตวิทยา ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของผู้ใช้บริการมากเท่าที่ควร ไม่มีการระวังคำพูด ไม่มีการดำเนินกิจกรรมที่ละเอียดอ่อนต่อจิตใจและปัญหาของผู้ใช้บริการมากพอ อาจมีการแตะความเจ็บปวดในใจโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ใช้บริการเกิดบาดแผลทางจิตใจ และมีอาการทางใจแย่ลงได้
อีกหนึ่งความเสี่ยงก็คือ มีความรู้ความเข้าใจต่อศิลปะบำบัดที่ผิดเพี้ยน การทำศิลปะบำบัดต้องดำเนินการด้วยบุคลากรด้านสุขภาพจิตเท่านั้น เพราะศิลปะบำบัดมีการใช้องค์ความรู้และกระบวนการทางจิตวิทยา หากผู้ดำเนินกิจกรรมไม่ใช่บุคลากรด้านสุขภาพจิต อาจทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจต่อศิลปะบำบัดที่ผิดเพี้ยน และไม่ได้รับความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพจิตที่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้บริการอาจนำความรู้ที่ผิดนี้ไปใช้กับตัวเองจนส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต และอาจมีการส่งต่อข้อมูลที่ผิดนี้ไปในวงกว้าง ทำให้ปัญหาสุขภาพจิตไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง
ดังนั้น ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมศิลปะบำบัด ไม่ว่าจะเป็นของทางภาครัฐหรือเอกชน ควรมีการตรวจสอบว่าบุคลากรที่ดำเนินกิจกรรมมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางด้านสุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของตัวเราเองด้วย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Art Therapy ศิลปะบำบัด จาก Peace Please Studio