“ชีวิตจริงไม่ได้โรยด้วยกลีบทานตะวัน” แวนโก๊ะ ศิลปินก้องโลกกับอาการป่วยทางใจที่พรากเขาไปไวกว่าวัยอันควร 🌻

ถ้าจะให้บอกชื่อศิลปินระดับโลกในวงการศิลปะมา 1 คน แน่นอนว่า ศิลปินที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ต้องติดอยู่ในชื่อแรก ๆ ที่หลาย ๆ คนนึกถึงแน่นอน เจ้าของภาพวาดอันเป็นเอกลักษณ์ งานที่โดดเด่นของเขามีการเลือกใช้สีสันสดใส โดยเฉพาะภาพดอกทานตะวันที่ย้อมไปด้วยสีเหลืองไปทั้งผืนผ้าใบ ศิลปินคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “Vincent Van Gogh” หรือที่เราเรียกกันว่า แวนโก๊ะ นั่นเอง

ถึงแม้ว่าผลงานของแวนโก๊ะจะไม่ได้เป็นที่เป็นที่โด่งดังและเป็นที่ประจักษ์สู่สายตาชาวโลกในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ แต่เมื่อเขาจากโลกไป ผลงานที่เขาทิ้งไว้กลับเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและทรงอิทธิพลต่อวงการศิลปะมาจนยุคปัจจุบัน ซึ่งทำให้พวกเราหลาย ๆ คนต่างคุ้นเคยกับงานของเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นภาพ Sunflowers ภาพ Starry Night หรือภาพ Café Terrace at Night ไปจนถึงภาพ Portrait ของเขาที่ชวนให้สงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแวนโก๊ะกันบ้างนะ?

นอกจากผลงานศิลปะที่มีความเฉพาะตัวสูงมากแล้ว สิ่งที่หลาย ๆ คนให้ความสนใจเกี่ยวกับแวนโก๊ะคือชีวิตส่วนตัวของเขาที่ส่งอิทธิพลต่อผลงานที่เขาทำอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในวันนี้ เราจะนำเรื่องราวความเจ็บปวดจากการป่วยของแวนโก๊ะที่ส่งผลต่อตัวเขาและผลงานของเขาจากงานวิจัยและบทวิเคราะห์ของนักประวัติศาสตร์ศิลปะและนักจิตวิทยา ที่ได้นำจดหมายและบันทึกต่าง ๆ ของแวนโก๊ะและคนใกล้ตัวของเขามาวิเคราะห์อีกที

ประวัติโดยย่อของแวนโก๊ะ

เริ่มกันที่ชีวิตวัยเด็กของแวนโก๊ะ เขาเติบโตมากับกฎระเบียบและความคาดหวังที่สูงลิบลิ่ว เพราะพ่อของเขาเป็นบาทหลวงในนิกายโปรแตสแตนท์ที่มีความเข้มงวดสูง ซึ่งนั่นทำให้เส้นทางการเติบโตของเขาเต็มไปด้วยกฎระเบียบและความกดดัน ซึ่งเมื่อแวนโก๊ะเข้าสู่ช่วงวัยผู้ใหญ่ ประมาณ 20 ต้น ๆ ตามบันทึกของพ่อของเขาระบุไว้ว่า แวนโก๊ะมีอาการซึมและปลีกตัวจากผู้คน พ่อของเขาแนะนำให้เขาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชแต่ไม่เป็นผล ต่อมาในช่วงที่เขาออกไปทำงานศิลปะที่เมือง Arles เขามีเพื่อนศิลปินพำนักอยู่ที่นั่นกับเขาด้วย ซึ่งก็คือ Paul Gauguin แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคนเป็นศิลปินที่มีแนวคิดในการสร้างงานศิลปะไม่เหมือนกัน ทำให้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง จนมีครั้งหนึ่งที่แวนโก๊ะควบคุมตัวเองไม่ได้และตัดหูตัวเอง จนทำให้โกแกงและคนรอบข้างในหมู่บ้านรู้สึกหวาดกลัวแวนโก๊ะ ทำให้เขาต้องแอดมิตเข้าโรงพยาบาลจิตเวช เขาได้ออกมาหนึ่งครั้ง แต่ก็ต้องกลับเข้าไป จนอาศัยอยู่ที่โรงพยาบาลจิตเวชตลอดช่วงบั้นปลายของชีวิต และจบชีวิตลงด้วยการปลิดชีพตัวเอง

สรุป 6 สาเหตุที่(อาจ)ทำให้แวนโก๊ะป่วย

จากการสันนิษฐานผ่านข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ นักวิจัยได้สรุป 6 สาเหตุที่(อาจ)ทำให้แวนโก๊ะป่วย ได้แก่

  1. ไลฟ์สไตล์ (Lifestyles)

แวนโก๊ะขึ้นชื่อว่าเป็นคนติดแอลกอฮอล์หนักมาก ทั้งเหล้า ไวน์ ไปจนถึง Absinthe ซึ่งเป็นเหล้าที่มีแอลกอฮอล์ในสัดส่วนที่สูงถึง 50-70% เลยทีเดียว นอกจากนี้ เขายังรับสารอาหารไม่เพียงพอซึ่งส่งผลต่อการนอนหลับอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการสันนิษฐานว่า วันที่แวนโก๊ะตัดสินใจตัดหูตัวเอง อาจเป็นเพราะว่าเขาลงแดงจากการขาดแอลกอฮอล์ก็เป็นได้ ด้วยไลฟ์สไตล์การติดเหล้าอย่างหนักนี้ สามารถส่งผลต่อสมองและการรับรู้ได้ นี่อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาป่วยใจง่ายกว่าเดิมก็เป็นได้

  1. กลุ่มโรคจิตเภท (Psychotic Disorders)

ตามบันทึกแล้วแวนโก๊ะมีอาการตามกลุ่มโรคจิตเภททั้งหมด 3 ช่วงด้วยกัน โดยสองช่วงแรกเกิดอาการเห็นภาพหลอน (Hallucination) และมีอาการหลงลืม (Amnesia) รวมถึงการรับรู้ที่ผิดปกติไป (Distorted Perception) ในช่วงที่สามนั้นส่งผลต่อพฤติกรรมโดยตรงของเขาเลย ก็คือมีการกินสีที่เขาใช้ในการวาดภาพลงไป 

  1. กลุ่มโรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders)

จากข้อมูลต่าง ๆ อาจบอกได้ว่า แวนโก๊ะเป็นโรคอารมณ์แปรปรวน หรือ Bipolar Disorder ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ แวนโก๊ะมีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมีอารมณ์ไม่คงที่ โดยเฉพาะในช่วงบั้นปลายของชีวิตที่เขาโหมกระหน่ำวาดรูปและสเก็ตช์ภาพกว่า 80 ภาพภายใน 70 วัน ซึ่งเรียกได้ว่ามีอาการคึกคะนองผิดปกติ หรือภาวะ Mania ซึ่งเป็นอาการเด่นของโรคอารมณ์แปรปรวนนั่นเอง

  1. กลุ่มโรคบุคลิกภาพแปรปรวน (Personality Disorder)

ตลอดช่วงชีวิตของแวนโก๊ะ เขามักมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับผู้คนในชีวิตของเขา ไม่ว่าจะเป็นกับพ่อ เพื่อนร่วมงานอย่างโกแกง หรือบางครั้งกับน้องชายอย่างเธโอก็มีบ้าง รวมไปถึงชีวิตรักของเขาที่ไม่เคยสมหวังเลยสักครั้ง ซึ่งอาจเกิดจาก ภาวะบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่ง หรือ Borderline Personality Disorder ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับโรคอารมณ์แปรปรวน แต่ภาวะนี้จะไม่มีอาการ Mania และมีจุดเด่นที่อารมณ์ที่ไม่แน่นอน มีความคิดลบต่อตัวเองและผู้อื่น และมีความเสี่ยงในการทำร้ายตัวเอง

  1. กลุ่มโรคโซมาติก (Somatic Disorders)

เป็นกลุ่มโรคจิตเวชที่มีความเกี่ยวข้องกับอาการทางกายทำให้ร่างกายอ่อนแรง เหนื่อยง่าย ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ โดยแวนโก๊ะอาจเป็นโรคนี้จากการดื่มเหล้า Absinthe ในปริมาณมากก็เป็นได้

  1. โรคลมชัก (Epilepsy)

โดยทั่วไปแล้ว โรคลมชักเป็นที่รู้จักว่าเกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของระบบประสาท ส่งผลให้มีอาการชักกระตุก เกร็ง หรือเหม่อได้ แต่โรคลมชักที่แวนโก๊ะเป็นไม่ใช่ประเภทดังกล่าว เป็นอีกประเภทหนึ่งที่มีทั้งอาการชัก และส่งผลที่ไปสมองภายใน ทำให้เกิดอาการวิตกกังวลและการเห็นภาพหลอนอีกด้วย

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วเราจะไม่สามารถรู้ได้อย่างแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกับแวนโก๊ะบ้าง แต่ความไม่ท้อถอยต่อความยากลำบากและความรักในศิลปะของแวนโก๊ะทำให้เราได้เรียนรู้ว่าเขาเป็นศิลปินที่อุทิศตนและสมควรได้รับความชื่นชม ต่อให้ผ่านไปอีกร้อยปีพันปี ชื่อของเขาจะยังคงโลดแล่นในวงการศิลปะและเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลาย ๆ คนต่อไป

อ้างอิง

Nolen, W. A., Van Meekeren, E., Voskuil, P., & Van Tilburg, W. (2020, November 2). New vision on the mental problems of Vincent van Gogh; results from a bottom-up approach using (semi-)structured diagnostic interviews. International Journal of Bipolar Disorders.