ในแต่ละวัน มีกี่ครั้งที่เราสวมหน้ากากเป็นอีกบทบาทหนึ่งปกปิดตัวตนที่แท้จริง? มันอาจฟังดูแรงไปสักนิด แต่การใส่หน้ากากนี้มีได้ทั้งข้อดี และข้อเสีย บางครั้งเราจำเป็นต้องใส่หน้ากากเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์นั้น แต่หากเราสวมหน้ากากนั้นอยู่ตลอดเวลา มันอาจสร้างความเครียด และความเหนื่อยล้าให้กับตัวเองได้
หน้ากากบุคลิกภาพ หรือ Personality Masks คือ หน้ากากตัวตนต่างๆ ที่ช่วยเป็นเกราะป้องกันตัวตนอันเปราะบางของเราไม่ให้เจ็บปวด เรียกง่ายๆ ว่าเป็นกลไกป้องตนเองที่เราสร้างมันขึ้นมาเพื่อป้องกันตนเองจากเหตุการณ์ที่กระทบต่อจิตใจ เช่น การถูกปฏิเสธทางสังคม การถูกกลั่นแกล้ง เราใส่มันในที่ทำงาน ที่บ้าน กับเพื่อน หรือในที่ที่เราอยากปิดบังตัวตนที่แท้จริง
แล้วหน้ากากในที่นี้หน้าตาเป็นอย่างไรกัน? หน้ากากสามารถมาในรูปแบบของคำพูด การแสดงออกทางสีหน้า และท่าทาง ตัวอย่างหน้ากากที่เราน่าจะพบเจอบ่อยๆ มีทั้งหมด 8 ประเภท
- หน้ากากเหยื่อผู้น่าสงสาร
คนเหล่านี้จะไม่ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองเพื่อปกป้อง Self-esteem มักโทษสิ่งรอบตัวว่าเป็นต้นเหตุให้เกิดปัญหา
- หน้ากากคนพาล
ในบางคนที่มีปมเคยถูกกลั่นแกล้ง หรือโดนทำร้ายมาก่อน จะเลือกที่จะแสดงออกด้วยการทำร้ายจิตใจผู้อื่นต่ออีกทีด้วยการล้อเลียน หรือการข่มเหง เพื่อปิดบังความอ่อนแอ และความกลัวในใจ
- หน้ากากตัวตลก
เราสวมหน้ากากนี้เพื่อปกปิดความเศร้าในใจ แสร้งทำเป็นตลกอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงความอ่อนแอ
- หน้ากากเย็นชา
เราเลือกที่สวมหน้ากากนี้ในเวลาที่เรากลัวที่เผยความรู้สึกที่แท้จริง กลัวคนอื่นจะมองว่าเป็นคนอ่อนไหว เราจึงเลือกที่นิ่งเฉย ไม่แสดงออกว่าทุกข์หรือสุข แต่บางครั้งการเก็บอารมณ์เช่นนี้ก็เป็นภัยเงียบ เพราะมันไม่มีที่ให้อารมณ์ได้ปลดปล่อยออกมา สุดท้ายแล้วมันอาจระเบิดออกมาจนควบคุมไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
- หน้ากากลงโทษตัวเอง
หลายครั้งเรากลัวว่าคนอื่นล้อเลียนเรา เราจึงเลือกที่จะล้อเลียนตัวเอง หรือพูดให้ตัวเองดูแย่ไปก่อน
- หน้ากากผู้บังคับบัญชา
บางคนสวมหน้ากากนี้เพื่อต้องการความรู้สึกปลอดภัย ด้วยการพยายามควบคุมสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว
- หน้ากาก people-pleasing
เมื่อเราเอาคุณค่าของตัวเองไปผูกไว้กับการยอมรับของสังคม หลายคนเลือกที่สวมหน้ากากนี้ ด้วยการเป็นคนชอบเอาใจผู้อื่น จนบางครั้งมากเกินไปจนเบียดเบียนความสุขสบายของตัวเอง
- หน้ากากเปลี่ยนสี
บางคนพยายามเปลี่ยนตัวตนไปเรื่อยๆ เพราะต้องเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนั้นๆ หากคนในกลุ่มทำอะไร คิดอะไร ก็จะเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับกลุ่มได้
ในโลกนี้ยังมีหน้ากากอีกมากมายที่เราเลือกสวมใส่ตามสถานการณ์ทางสังคม แม้บางครั้งเราจะรู้ว่ามันไม่ดี แต่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่าถ้าหากเราเลือกใส่หน้ากากเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเราบ่อยๆ สุดท้ายแล้วหน้ากากเหล่านี้เองจะสร้างความเหนื่อยล้าให้กับจิตใจ และร่างกาย จนเราอาจเกิดอาการวิตกกังวล เพราะกลัวว่าคนอื่นจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเรา
แล้วเราควรทำอย่างไร ถ้าหากเราอยากถอดหน้ากากนี้ออก?
สิ่งแรกที่เราต้องทำคือ การหาสาเหตุว่าเพราะอะไรเราถึงเลือกจะสวมใส่หน้ากากนั้น การขอคำปรึกษาจากคนที่ไว้ใจ หรือผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ค่อยๆ เรียนรู้ตัวเอง พร้อมกับการค่อยๆ ลดหน้ากากนั้นลง เพราะบางครั้งเราอาจหลงลืมตัวตนที่แท้จริงไปแล้วก็ได้
การถอดหน้ากากอาจไม่ได้ผลดีในทันที คุณควรเตรียมใจไว้สำหรับการเปลี่ยนแปลง ยอมรับความจริงที่ว่าเราไม่สามารถเข้มแข็งได้ตลอดเวลา และไม่สามารถเป็นที่รักของคนทั้งโลกได้ แต่นั่นเป็นเรื่องปกติ สุดท้ายแล้วคุณจะได้พบคนที่รักในตัวตนของคุณ ไม่ใช่หน้ากากที่คุณสวมใส่