Say NO! ให้เป็น หัด “ปฏิเสธ” บ้าง

การปฏิเสธ ไม่ได้แปลว่า เราเป็นคนไม่ดี

ไม่ได้แปลว่า เราไม่อยากเข้าสังคม

ไม่ได้แปลว่า เราเกลียดคนที่เราปฏิเสธ

ไม่ได้แปลว่า เราจะปฏิเสธตลอดไป

ไม่ได้แปลว่า …….

การปฏิเสธถือเป็นการสร้าง Boundary หรือการวางขอบเขตระหว่างตนเองกับผู้อื่นรูปแบบหนึ่ง เป็นการสื่อสารว่าเราไม่ยินดีทำสิ่งนี้ ซึ่งเราแต่ละคนล้วนมีเหตุผลส่วนตัวแตกต่างกันไปในการปฏิเสธใครสักคนหนึ่ง และเราทุกคนมีสิทธิ์ในการปฏิเสธใครสักคนหรืออะไรบางอย่างอยู่เสมอ 

ชาว People Pleaser อาจไม่คุ้นเคยกับการปฏิเสธและมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับพวกเขากว่าที่คิด เพราะชาว People Pleaser ยอมเป็นมือขวาของทุกคนมาโดยตลอด ทั้งที่ยินดีเป็นและไม่ยินดีเป็น เราอยากให้คุณระลึกไว้เสมอว่า เราไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเรื่องของคนอื่น เรามีหน้าที่ที่เราต้องทำอยู่แล้ว และเราควรโฟกัสไปที่สิ่งที่เราควรทำ ไม่ใช่ไปโฟกัสสิ่งที่เราควรทำให้คนอื่น 

นอกจากนี้ การปฏิเสธถือเป็น Self-Care รูปแบบหนึ่ง เพราะมันสามารถช่วยรักษาความรู้สึกของตัวเราเองได้เช่นกัน เนื่องจากในบางครั้งคำร้องขอเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบจิตใจกับเราได้ เช่น โดนขอร้องในสิ่งที่ไม่อยากทำ เช่น มีคนชวนไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์แต่เราไม่อยากไป มีคนรบเร้าให้ช่วยทำงานแทนให้ เป็นต้น 

ถ้าหากการปฏิเสธใครสักคนยังเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ เรามีวิธีฝึกปฏิเสธ 4 วิธีมาให้ลองฝึกทำกัน 

1. ฝึกพูดปฏิเสธ 

ลองนึกตัวอย่างบทสนทนาที่เราคาดว่าน่าจะมีคนมาขอร้องเรา แล้วลองซ้อมด้วยการพูดคำปฏิเสธออกมาให้ตัวเองได้ยิน ถ้ารู้สึกว่ามันยากที่จะปฏิเสธใครสักคน เราอยากให้คิดว่า การปฏิเสธนั้นเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราปฏิเสธไปได้แล้ว ความกังวลทุกอย่างจะจบลง และการปฏิเสธไม่ได้ทำให้เราเป็นคนที่แย่แต่อย่างใด 

2. บอกเหตุผล

หากพูดปฏิเสธไปได้แล้ว การให้เหตุผลประกอบจะช่วยทำให้คู่สนทนาเข้าใจเรามากขึ้นว่าทำไมเราถึงปฏิเสธออกไป

3. แนะนำทางออก

การปฏิเสธไปอย่างเดียวอาจจะดูสั้นและห้วนไป ดังนั้น ลองเสนอทางเลือกอื่นให้กับคนที่มาขอร้องเรา เช่น ถ้ามีเพื่อนร่วมงานมาขอร้องให้ช่วยทำงานให้ แต่เราไม่อยากทำ จึงเสนอเป็นจะมาช่วยสอนงานเพื่อนคนนั้น

4. ให้เวลาตัวเองในการตัดสินใจ

คำขอร้องบางอย่างอาจไม่จำเป็นต้องตัดสินใจทันที เราควรได้ใช้เวลาคิดในการทบทวนคำตอบของเราก่อน เช่น เพื่อนชวนไปกินข้าว แต่ช่วงนี้เราเหนื่อยจากงานยังไม่อยากไปไหน ก็บอกเพื่อนไปก่อนก็ได้ว่าขอเวลาตัดสินใจก่อน ช่วงนี้งานเยอะ ต้องดูตารางงานอีกที

การปฏิเสธเป็นเรื่องปกติ เราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดกับการปฏิเสธ ถ้าเรามัวแต่เซย์เยสให้กับทุกอย่างในชีวิต สักวันหนึ่งมันอาจทำให้เราเหนื่อยล้าจนส่งผลต่อสุขภาพจิตก็เป็นได้ ทุกคนต้องดูแลหัวใจและพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองให้ดีนะ