“ระวัง! อย่าล้ำเส้น” วาง Boundary อย่างไรให้สบายใจทั้งเราและคนรอบข้าง

เคยเป็นไหม โดนพ่อแม่หรือแฟนค้นโทรศัพท์ เพื่อนแอบอ่านไดอารี่ คนในบ้านหยิบของไปใช้ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยขอ เพื่อนเล่าเรื่องน่าอายของเราให้คนอื่นฟัง หรือโดนตามงานในวันหยุด หากเพื่อน ๆ เคยรู้สึกโกรธจากเหตุการณ์เหล่านี้ แสดงว่าคุณมี “Boundary” ระหว่างพื้นที่ส่วนตัวของคุณและคนรอบข้าง ซึ่งในวันนี้เราจะมาเรียนรู้ถึงเจ้า Boundary ให้มากขึ้นและมาลองจัดการกับมันกัน ถ้าพร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย!

Boundary คืออะไร? ทำไมถึงควรมี Boundary?

Boundary แปลตรงตัวคือขอบเขตหรือเขตแดน ในทางด้านสุขภาพจิตหมายถึงขอบเขตของพื้นที่ส่วนตัวที่เรากำหนดขึ้นมา เราทุกคนต่างต้องการเวลาส่วนตัวและพื้นที่ส่วนตัวในการทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น เพื่อใช้ชีวิต ตั้งสติ ครุ่นคิด ทำความเข้าใจตัวเอง หรือเพียงแค่อยากใช้เวลากับตัวเองตามลำพังก็ตาม ถ้าหากมีใครสักคนล้ำเส้นเข้ามา แน่นอนว่ามันจะทำให้เรารู้สึกโกรธและไม่ปลอดภัย ขึ้นชื่อว่าพื้นที่ส่วนตัวแล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามา แต่ละคนก็จะมีเงื่อนไขในการวาง Boundary แตกต่างกันไป รวมถึงบริบททางวัฒนธรรมก็มีผลด้วย ในอดีต เรื่องพื้นที่ส่วนตัวเป็นเรื่องที่โลกตะวันตกให้ความสนใจ แตกต่างจากฝั่งตะวันออกที่มีความเป็นกลุ่มก้อน ความเป็นครอบครัวและสังคมใหญ่มากกว่า ซึ่งทำให้คอนเซปต์เรื่องพื้นที่ส่วนตัวยังไม่ได้แพร่หลายมากนัก แต่ในปัจจุบันก็มีการตระหนักถึงเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้นแล้ว

การวาง Boundary เป็นเรื่องสำคัญ แต่เราจะเริ่มกันยังไง? ถ้าใครไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี เรานำ 5 วิธีในการวาง Boundary มาให้อ่านกัน

1. ถามตัวเอง “อะไรทำให้เราอึดอัด”

ก่อนที่เราจะวาง Boundary ให้ตัวเอง สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการหาสิ่งที่ทำให้เราอึดอัด คนประเภทไหนที่ทำให้เราอึดอัด การคุยเรื่องไหนที่ทำให้เรารู้สึกไม่อยากคุยต่อด้วย สกินชิพแบบไหนที่เรามองว่ารุกล้ำมากเกินไป เรื่องแบบไหนที่คนอื่นฝากเราทำแต่เราไม่อยากทำ  

2. ค่อย ๆ สร้างขอบเขตของตัวเอง

เมื่อหาคำตอบให้กับตัวเองได้แล้วว่าอะไรที่ทำให้เราอึดอัด ทีนี้เราจะมาวาง Boundary ของเรากัน โดยสร้างข้อกำหนดให้กับตัวเอง เช่น ให้เพื่อนยืมเงินได้ไม่เกิน 5,000 บาท คนในบ้านห้ามทักเรื่องน้ำหนัก ถ้าข้างบ้านเปิดเพลงเสียงดังจะเดินไปบอกให้เขาลดเสียง ถ้าโดนชวนคุยเรื่องการเมืองเกี่ยวกับพรรคที่ไม่ชอบจะไม่คุย เป็นต้น  

3. กล้าที่จะพูดว่า “ไม่”

เราเชื่อว่า หลาย ๆ คนเป็น People Pleaser และกลัวที่จะปฏิเสธคนอื่น เพราะกลัวคนอื่นไม่ชอบและกลัวว่าคนอื่นจะไม่พอใจ คุณนึกถึงคนอื่นอยู่เสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณลืมก็คือ “ความรู้สึกของตัวเอง” ถ้าไม่อยากทำอะไรหรือไม่สะดวกใจที่จะทำอะไรให้คนอื่น ให้คุณบอกไปตรง ๆ เลยว่า “ไม่” พร้อมอธิบายเหตุผลของตัวเอง 

4. สังเกตตัวเองว่าวาง Boundary แล้วรู้สึกดีขึ้นไหม?

ถ้าเราวาง Boundary ของเราเป็นแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือ “ความรู้สึกสบายใจ” ถ้าวางขอบเขตไว้แล้วแต่รู้สึกว่ามันทำให้ชีวิตลำบากหรือตัดขาดจากโลกภายนอกเกินไป เราก็สามารถปรับเปลี่ยน Boundary ให้เหมาะสมได้ เช่น จัดเวลาดูทีวีกับครอบครัวไว้ 2 ชั่วโมง แต่รู้สึกอยากใช้เวลากับครอบครัวอีก จึงขอปรับเป็น 3 ชั่วโมง 

5. Boundary ยืดหยุ่นได้

คนเราเปลี่ยนแปลงกันอยู่ตลอดเวลา เมื่อก่อนเราอาจมองว่าสิ่งที่ทำให้เราอึดอัดในอดีต ในวันนี้เราอาจรู้สึกโอเคกับมันแล้วก็ได้ เช่น เมื่อก่อนเราไม่ชอบคุยเรื่องการเมือง แต่เดี๋ยวนี้เราคุยเรื่องการเมืองได้เป็นปกติแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องอื่น ๆ ดังนั้น เวลาเปลี่ยน Boundary ของเราก็อาจเปลี่ยนตามไปด้วย

ความรู้สึกของเราสำคัญไม่ต่างจากความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง หากเรามี Boundary ที่เหมาะสม จะช่วยให้เรารู้สึกโอเค สบายใจ ไม่อึดอัด รักษาความสัมพันธ์กับตัวเอง และยังช่วยรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้อีกด้วย

อ้างอิง

Hailey, L. (2023, October 20). How to Set Boundaries: 5 Ways to Draw the Line Politely. Science of People.