“การร้องไห้” กับประโยชน์ที่ส่งผลต่อสุขภาพใจของเรา

ครั้งสุดท้ายที่คุณร้องไห้คือเมื่อไหร่?

“การร้องไห้” และ “น้ำตา” สองสิ่งที่ช่วยให้มนุษย์ปลดปล่อยอารมณ์ด้านลบและบวกได้เป็นอย่างดีที่สุด ลองสังเกตความรู้สึกหลังร้องไห้ดูนะ พวกเราส่วนใหญ่มักจะรู้สึกโล่งทันทีเมื่อได้ปลดปล่อยออกมา ไม่ว่าจะเป็นการร้องไห้ที่เกิดจากความทุกข์หรือการร้องไห้ที่เกิดจากความสุขอันล้นปรี่ก็ตาม ซึ่งการที่การร้องไห้ส่งผลต่อสภาพจิตใจและอารมณ์ความรู้สึกของเราโดยตรงได้เช่นนี้ วันนี้เราจึงอยากหยิบยกประโยชน์ของการปล่อยให้น้ำตารินไหลมาให้ได้อ่านกัน

ทำไมคนเราถึงร้องไห้?

การที่เราแต่ละคนร้องไห้ออกมาได้ล้วนมีสาเหตุที่ส่งผลให้น้ำตาไหลออกมาแตกต่างกันไป ซึ่งจำแนกออกมาได้ 3 ประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้

  • ร้องไห้เพราะความเจ็บปวดทางกาย

ที่ร้องไห้เป็นเพราะฝุ่นเข้าตาไม่ใช่เรื่องที่เกินความเป็นจริงแต่อย่างใด เมื่อมีสิ่งแปลกปลอมอย่างฝุ่น ควัน หรือ เศษดิน สิ่งสกปรกต่าง ๆ ดวงตาของเราจะปกป้องตัวมันเองด้วยการหลั่งน้ำตาออกมาเพื่อให้สิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นไหลออกจากดวงตาไป นอกจากนี้ หากร่างกายเราได้รับบาดเจ็บ เช่น หกล้มเป็นแผลถลอก เจ็บปวดตามร่างกาย ปวดท้อง หรืออาการเจ็บปวดทางกายใด ๆ ก็ตาม ซึ่งอาการเจ็บปวดทางกายเหล่านี้ส่งผลทำให้ร่างกายของเรารู้สึกตึงเครียดได้ จึงเกิดการหลั่งของฮอร์โมนความเครียดอย่างฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) การร้องไห้สามารถช่วยทำให้เรารู้สึกได้ปลดปล่อยความเครียดทางร่างกาย ซึ่งเป็นการลดการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลรูปแบบหนึ่ง เพื่อทำให้ร่างกายของเรารู้สึกเจ็บปวดน้อยลงนั่นเอง

  • ร้องไห้เพราะความทรมานทางใจ

ความเจ็บปวดทางใจ เป็นเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้คนเราร้องไห้ ไม่ว่าคุณจะไปเจอเหตุการณ์อะไรมา สูญเสียคนรัก อกหักเพราะไปต่อกันไม่ได้ พ่อแม่แยกทางกัน ครอบครัวแตกหัก น้องหมาน้องแมวกลับดาว เพื่อนย้ายบ้านไปต่างประเทศไปต่างจังหวัด โดนไล่ออกจากงาน หรือเกิดจากการไปซึมซับเรื่องอื่น ๆ มา เช่น ดูหนัง ดูซีรีส์แล้วอินจนร้องไห้ หรืออาจป่วยเป็นโรคทางจิตเวชที่มีความเกี่ยวข้องกับอารมณ์ความรู้สึกเป็นหลัก เช่น โรคไบโพล่าร์ โรคซึมเศร้า และโรคอื่น ๆ ในกลุ่มโรคทางด้านอารมณ์ ซึ่งทำให้มีแนวโน้มที่ทำให้เกิดความรู้สึกเศร้าและทรมานใจได้ง่ายกว่าปกติ หลาย ๆ คนจึงร้องไห้ออกมาเพื่อปลดปล่อยความทรมานภายในใจ เป็นการแสดงอารมณ์และความรู้สึกรูปแบบหนึ่งที่ทำให้คนอื่นรับรู้ว่าเราเศร้านั่นเอง

  • ร้องไห้เพราะเป็นวิธีการจัดการอารมณ์รูปแบบหนึ่ง

ในแต่ละวัน ชีวิตเราต่างพบเจอทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย รวมไปถึงเรื่องน่าหงุดหงิดใจ เช่น เราพบเจอกับเหตุการณ์เล็ก ๆ ที่อาจดูไม่สลักสำคัญอะไรแต่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเราในแต่ละวันได้ เช่น อาหารไม่อร่อย อากาศร้อนเกินไป หรืออาจจะแค่ลืมของไว้ที่ห้อง สะดุดก้อนหิน เหตุการณ์น่าหงุดหงิดใจใด ๆ ก็ได้สามารถทำให้เราร้องไห้ได้เหมือนกัน ซึ่งอาจเกิดจากเหตุการณ์เหล่านั้นสร้างความรำคาญใจและความหงุดหงิดให้กับเรา จนเรารู้สึกไม่พอใจ จึงร้องไห้เพื่อจัดการกับอารมณ์ความหงุดหงิดที่เกิดขึ้นนี้

ในขณะเดียวกัน ชีวิตคนเราไม่ได้มีแต่เรื่องแย่ ๆ บางครั้งที่ช่วงชีวิตเราพบเจอกับเหตุการณ์ที่ทำให้ได้พบเจอกับความสุขอันล้นปรี่ น้ำตาของเราก็สามารถไหลออกมาได้ง่าย ๆ เช่นกัน อาทิ เวลาเรียนจบ ประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง โดนขอแต่งงาน ได้งานใหม่ ชนะการแข่งขันอะไรสักอย่าง เป็นต้น ซึ่งการร้องไห้จากเหตุการณ์ที่มีความสุขก็ถือว่าเป็นการจัดการอารมณ์และแสดงอารมณ์รูปแบบหนึ่งเช่นกัน

ประโยชน์ของการร้องไห้ 

  • ได้ปลดปล่อยและจัดการอารมณ์ที่เกิดขึ้น

เพราะการร้องไห้ถือเป็นการปลดปล่อยอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นรูปแบบหนึ่ง การได้ร้องไห้ออกมา แม้จะร้องไห้ด้วยความรู้สึกเศร้า ดีใจ เสียใจ โกรธ ไม่พอใจ หรืออารมณ์ความรู้สึกแบบใดก็ตาม การร้องไห้จะช่วยปลดปล่อยอารมณ์เหล่านั้นที่เกิดขึ้นออกมา ทำให้เราใจเย็นลง และช่วยให้เราจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น ไม่ได้มีอารมณ์รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้

  • รู้สึกโล่งและรู้สึกดีขึ้นจากการได้ร้องไห้อย่างทันที

เมื่อเราได้ร้องไห้ออกไปแล้ว สิ่งที่หลาย ๆ คนจะรู้สึกคือ อารมณ์ที่เคยเกิดขึ้นไปก่อนหน้านี้ได้เบาบางลงไปแล้ว ความหนักหนาทางด้านอารมณ์ได้รับการผ่อนคลายไปด้วยการร้องไห้ ทำให้รู้สึกใจเย็นขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้น มีสติอยู่กับตัวมากขึ้น และรู้สึกดีขึ้นนั่นเอง

  • ดวงตาได้รับการปกป้องจากสิ่งแปลกปลอม

ฝุ่น ดิน ควัน สิ่งสกปรกต่าง ๆ เมื่อมันบังเอิญเข้ามาในดวงตาของเรา ร่างกายจะตอบสนองให้มีการขับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ด้วยการร้องไห้ออกมา เพื่อไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นสร้างอันตรายกับดวงตาของเราได้นั่นเอง

  • ทำให้รู้สึกเจ็บปวดทางกายและใจน้อยลง

ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดทางกายที่เกิดจากความตึงเครียด หรือความเจ็บปวดทางใจที่เกิดจากการเจอเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจมา การได้ปล่อยให้ตัวเองร้องไห้สักนิดจะช่วยให้เราได้บรรเทาความเจ็บปวดเหล่านี้ลงไปได้บ้าง เนื่องจากเมื่อร่างกายเราเกิดความเครียด ทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลหรือฮอร์โมนความเครียดพุ่งสูงขึ้น จึงทำให้ทั้งร่างกายและจิตใจเกิดความตึงเครียดไปหมด การร้องไห้จะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลายและทำให้ระดับของฮอร์โมนคอร์ติซอลลดลงไปตามลำดับ และทำให้ร่างกายเรารู้สึกเจ็บปวดน้อยลง แม้จะลดลงไปไม่มาก แต่ร่างกายเราก็พยายามช่วยเหลือให้เราเจ็บปวดน้อยลงอยู่นะ

  • ทำให้ผู้อื่นรับรู้อารมณ์ของเรา และได้ให้การช่วยเหลืออย่างเหมาะสม

การได้ร้องไห้ออกมาเมื่ออยู่ท่ามกลางคนที่เราไว้ใจ นอกจากจะทำให้เรารู้สึกถึงการโอบรับและการซัพพอร์ตจากกลุ่มคนเหล่านั้นแล้ว เรายังสามารถแสดงอารมณ์และความรู้สึกของเราได้โดยไม่ต้องเก็บกดความรู้สึก ไม่ต้องอดทนต่อความรู้สึกที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้เรารู้สึกได้ปลดปล่อยอารมณ์และความรู้สึกของตัวเอง อีกทั้งยังช่วยในเรื่องการซัพพอร์ตทางสังคมของเรา ทำให้เราได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มคนที่ไว้ใจ อันส่งผลต่อความสนิทสนมและความไว้ใจระหว่างกันได้ด้วย งานวิจัยจากนักจิตวิทยา Robert R. Provine ศาสตราจารย์ทางด้านจิตวิทยาแห่ง University of Maryland พบว่า คนเราจะเลือกช่วยเหลือคนที่ร้องไห้ออกมามากกว่าคนที่ไม่ได้ร้องไห้ อีกด้วย  

การร้องไห้ไม่ได้เป็นเรื่องแย่ แต่ค่านิยมบางอย่างที่ทำให้การร้องไห้ดูเป็นเรื่องที่ไม่ดีขึ้นมา ถ้าวันไหนไปเจอเรื่องหนัก ๆ ในชีวิตมาแล้วอยากร้องไห้ อย่าเก็บกดความรู้สึกนั้น ปลดปล่อยให้น้ำตาไหลออกมา คุณจะรู้สึกดีขึ้น และขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังร้องไห้ทุกคนนะ

อ้างอิง

Marcin, A. (2017, April 14). 9 Ways Crying May Benefit Your Health. Healthline.

Moore, M. (2023, April 18). Why Do We Cry?: 8 Reasons and Benefits of Crying. Psych Central.

Ohwovoriole, T. (2023, August 12). Why Can't I Cry Even Though I'm Sad? Verywell Mind.

น้ำตา มีประโยชน์กว่าที่คิด. (2018, January 15). Pobpad.