5 วิธีระบายอารมณ์ ปลดปล่อยพลังความโกรธ ความเศร้า และเหล่าอารมณ์ด้านลบอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเราเอง

ในวัน ๆ หนึ่ง ชีวิตคนเราคงไม่ได้มีแค่เรื่องราวเบิกบานใจ ทุก ๆ วันไม่ได้เต็มไปด้วยวันที่ฟ้าใส แดดออกสดใสและสายรุ้งเหมือนในความฝัน แต่ละวันของเราทุกคนก็ทั้งเรื่องที่น่ายินดีผสมปนเปไปกับเรื่องที่น่าผิดหวัง ซึ่งทำให้เรามีอารมณ์ความรู้สึกที่ดีและไม่ดีปะปนกันไป ถ้าวันไหนที่ความรู้สึกของเราล้นเอ่อไปด้วยความสุขและอารมณ์ทางบวก พวกเราส่วนใหญ่มีความรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่จะรู้สึกแบบนี้ไปนาน ๆ แต่ในทางกลับกัน หากวันใดก็ตามที่เต็มไปด้วยเรื่องแย่ ๆ ทำให้เรารู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์ด้านลบอยู่เต็มหัวใจ แน่นอนว่าเราไม่อยากจะรู้สึกแบบนี้ไปตลอดทั้งวัน เราจึงมองหาวิธีระบายอารมณ์ด้านลบเหล่านี้เพื่อให้วันนี้ของเราเดินหน้าต่อไปได้

แต่การระบายอารมณ์ด้านลบทำได้ยังไงบ้าง? วันนี้เราจะไปหาคำตอบกัน

อารมณ์ด้านลบคืออะไร มีอะไรบ้าง

ก่อนที่จะไปเรียนรู้วิธีการระบายอารมณ์ด้านลบ เราควรมาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า อารมณ์ด้านลบของมนุษย์มีอะไรบ้าง เป็นความรู้สึกแบบไหน เพื่อจะช่วยให้เราเข้าใจภาวะอารมณ์ของตัวเราเองและเช็กความรู้สึกของตัวเองได้รวดเร็วขึ้นเมื่อมีอารมณ์ด้านลบเกิดขึ้นนั่นเอง

อารมณ์ด้านลบคืออะไร? อารมณ์ด้านลบ หรือ Negative Emotions คือภาวะอารมณ์ที่ทำให้เรารู้สึกไม่พึงพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น เหตุการณ์โดนแฟนนอกใจ ทำให้เราเกิดอารมณ์โกรธ หึงหวง อิจฉา ถูกหักหลัง อับอาย เป็นต้น ซึ่งอารมณ์ทั้งหมดเหล่านี้ล้วนเป็นอารมณ์ทางลบหมดเนื่องจากมันเกิดจากความไม่พึงพอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Verywell Mind (2022) ได้จำแนกอารมณ์ด้านลบไว้ 9 อารมณ์ ดังนี้

  • ความโกรธ
  • ความวิตกกังวล หรือความกลัว
  • ความเฉยเมย ความไม่สนใจ
  • ความดูถูก เหยียดยาม เกลียดชัง
  • ความอิจฉาริษยา 
  • ความไม่มั่นคง
  • ความรู้สึกผิด เสียดาย
  • ความโศกเศร้า ความเหงา 
  • ความอับอาย

ทำไมเราจึงต้องระบายอารมณ์?

เวลามีปัญหาเกิดขึ้น สิ่งที่เราทุกคนล้วนทำเพื่อจัดการปัญหานั้นคือการหาทางออกของปัญหา เพื่อให้ปัญหาหายไปและทำให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้ราบรื่นอีกครั้ง เช่นเดียวกับการเกิดขึ้นของอารมณ์ด้านลบ เมื่อเรามีอารมณ์ด้านลบเกิดขึ้น นั่นแสดงว่าเรากำลังมีปัญหา และสิ่งที่เราควรทำคือการจัดการกับปัญหานั้นนั่นเอง ถ้าหากเราปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังอยู่ภายในจิตใจ มันอาจส่งผลให้ปัญหาทางด้านอารมณ์ที่เกิดขึ้นกระทบไปยังด้านอื่น ๆ ในชีวิตของเราได้ เช่น เศร้าจนนอนนไม่หลับ ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ และทำให้ใช้ชีวิตได้ไม่เหมือนเดิม เป็นต้น

ประโยชน์ของการระบายอารมณ์

  • ช่วยให้เราได้ปลดปล่อยอารมณ์ด้านลบออกมา ไม่เก็บกด
  • ทำให้ไม่รู้สึกค้างคาอยู่ภายในจิตใจ รู้สึกโล่ง
  • เมื่อได้ระบายอารมณ์จะช่วยให้เรารู้สึกพร้อมเดินหน้าและจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตได้ดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงต่อการเกิดความเครียด และปัญหาทางสุขภาพจิตอื่น ๆ 
  • ช่วยป้องกันปัญหาต่อด้านอื่น ๆ ของชีวิต เช่น ปัญหาสุขภาพ ปัญหาด้านความสัมพันธ์ ปัญหาด้านการทำงาน เป็นต้น

5 วิธีระบายอารมณ์อย่างเหมาะสม

1. พูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา อย่าเก็บกด

การระบายอารมณ์ที่ง่ายที่สุดและเราเริ่มทำที่ตัวเองได้โดยทันทีคือการพูดสิ่งที่ทำให้เราไม่พึงพอใจออกมา เช่น วันนี้งานเยอะมาก กลับบ้านเลยมาบ่นกับตัวเองว่างานเยอะมาก เหนื่อยไม่ไหว หรือจะบ่นอะไรก็ได้ตามที่เราต้องการ โดยเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้บ่น ได้พูดอะไรก็ได้ออกไป โดยที่ไม่รู้สึกผิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติ นอกจากจะช่วยคลายเครียดแล้ว ยังช่วยให้เราได้ฟังความคิดของตัวเองอีกรอบเพื่อเป็นการเช็กสภาวะอารมณ์ของตัวเองอีกด้วย แต่ถ้าใครไม่อยากพูดกับเพื่อน ก็สามารถพูดกับคนที่เราไว้ใจได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่ พี่น้อง แฟน หรือเพื่อนร่วมงานที่ไว้ใจก็ได้เช่นกัน

2. เขียนมันลงไปใส่กระดาษ

หากใครพูดไม่เก่ง หรือรู้สึกไม่ชอบพูดเพราะรู้สึกว่าพอพูดเยอะแล้วเจ็บคอ หรือรู้สึกไม่อยากขยับปาก การเขียนหรือจดบันทึกอารมณ์ความรู้สึกของเราลงไปก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว เพราะการเขียนจะช่วยให้เราได้มองเห็นภาวะอารมณ์ของเราที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ช่วยให้เรารู้สึกจับต้องและสัมผัสกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายในได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้เราได้อยู่กับปัจจุบันและโฟกัสอารมณ์ของเราในขณะที่เขียนได้มากขึ้นด้วย เป็นวิธีการระบายอารมณ์และใส่ใจความรู้สึกของตัวเองรูปแบบหนึ่งนั่นเอง

3. ลงแรง ขยับร่างกายให้ลืมเรื่องเศร้า

สำหรับใครที่ไม่ชอบพูดและไม่ชอบเขียน ถนัดลงไม้ลงมือออกแรงมากกว่า เราก็มีทางเลือกในการระบายอารมณ์ให้กับคุณเช่นกัน นั่นก็คือการออกกำลังกายนั่นเอง เวลาที่เราออกกำลังกายจนได้เหงื่อกลับมา ถือเป็นการระบายอารมณ์อย่างดี นั่นก็เพราะว่าการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนโดปามีนที่ทำให้เราตื่นตัวและมีความสุข ในขณะเดียวกัน การออกกำลังกายก็ช่วยลดการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เป็นฮอร์โมนความเครียดอีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเราออกกำลังกายเสร็จจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นและลืมอารมณ์ด้านลบไปอย่างปลิดทิ้ง

4. อินให้สุด หยุดที่กลับมารู้สึกปกติ

เวลาเจอเหตุการณ์ที่ไม่น่าพอใจที่สร้างความรู้สึกหรืออารมณ์อะไรบางอย่างให้กับเรา บางคนเลือกที่จะให้เวลากับตัวเองในการได้สัมผัสอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่ รับรู้มัน โอบกอดมัน และให้โอกาสตัวเองในการซึมซับอารมณ์ความรู้สึกนั้นอย่างลึกซึ้งผ่านการใช้เวลากับตัวเอง จนเมื่อเวลาผ่านไป อารมณ์ความรู้สึกนั้นได้ทำให้เรามาอยู่ในจุดที่รู้สึกว่า “พอ” จนท้ายที่สุดเราก็เดินออกมาจากอารมณ์ความรู้สึกนั้นได้อย่างเป็นปกติสุขราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งนี่ก็ถือเป็นวิธีการระบายอารมณ์รูปแบบหนึ่งเช่นกัน

5. ทำกิจกรรมที่ช่วยคลายอารมณ์ได้

เพราะคนเราพบเจอเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งเรื่องปวดหัวได้แตกต่างกัน ซึ่งนั่นก็นำมาซึ่งวิธีในการระบายอารมณ์ที่แตกต่างกันเช่นกัน นอกเหนือจากทั้ง 4 ข้อที่เราได้พูดถึงกันไปด้านบนแล้ว ทุกคนยังสามารถเลือกทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ช่วยทำให้เราสงบลงได้ บางคนอาจไปนั่งสมาธิ บางคนหนีไปเที่ยว บางคนไปกินอาหารที่ชอบ บางคนนั่งดูซีรีส์จนถึงเช้า หรือคุณจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณได้ค่อย ๆ ออกมาจากอารมณ์ด้านลบที่ทำให้เรารู้สึกไม่พึงพอใจในชีวิต เพื่อให้เราได้กลับมาสู่ภาวะอารมณ์ที่เป็นปกติสุขอีกครั้งนั่นเอง

อย่างไรก็ดี อารมณ์ด้านลบไม่ใช่สิ่งต้องห้ามขนาดนั้น มันเป็นเรื่องปกติธรรมดามาก ๆ ที่เราแต่ละคนจะเกิดภาวะอารมณ์ด้านลบขึ้นระหว่างการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน สิ่งที่เราควรทำคือการเช็กอารมณ์ของตัวเองและพาตัวเองให้กลับมาสู่ภาวะอารมณ์ที่ปกติให้ได้นั่นเอง


สุขภาพจิต Mental Health คือภาวะของจิตใจเราที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากตัวเราเอง เช่น ตัวตนของเรา ความคิดของเรา ความรู้สึกที่มีต่อตัวเองและผู้อื่น การมองโล การมีความเข้าใจและรู้เท่าทันต่ออารมณ์และความรู้สึกของตนเอง รวมไปถึงมีการตระหนักรู้ว่าอารมณ์เชิงลบเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้สำหรับทุกคน รู้ว่าควรรับมือกับอารมณ์เชิงลบอย่างไรให้เหมาะสมกับตนเอง รวมถึงสิ่งรอบตัวต่าง ๆ  ตั้งแต่อาหารการกิน การอยู่อาศัย ไปจนถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ครอบครัว เพื่อน คนรัก เพื่อนที่ทำงาน เป็นต้น 

เช็กปัญหาสุขภาพจิตเบื้องต้นได้ที่นี่