เปิดเข้าไอจีหรือเฟซบุ๊คทีไร สิ่งที่เราเจอเป็นอย่างแรก ๆ คือภาพชีวิตประจำวันของเพื่อนหรือคนรู้จัก หลาย ๆ คนมีชีวิตดีและประสบความสำเร็จไปก่อนหน้าเราแล้ว ไม่ว่าจะเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ได้เป็นหัวหน้า เป็นเจ้าของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เรียนต่อจนถึงปริญญาเอก แต่งงานมีลูก มีครอบครัวที่มีความสุข ได้ออกไปเที่ยวรอบโลก หรืออื่น ๆ ซึ่งเราก็รู้สึกยินดีกับความสำเร็จอีกขั้นของพวกเขานะ แต่ลึก ๆ แล้ว เราก็อดเปรียบเทียบชีวิตเรากับชีวิตพวกเขาไม่ได้ และเกิดความสงสัยในใจ ทำไมเราไม่ประสบความสำเร็จแบบนั้นบ้างนะ?
ความสำเร็จคืออะไร? และเรามองมันอย่างไร?
เป็นคำถามที่เราอยากชวนให้ลองมานั่งคิดกัน ตอนเด็ก ๆ เราอาจโดนปลูกฝังมาว่าความสำเร็จมีไม่กี่รูปแบบ ต้องเรียนสูง ๆ จบจากที่ดี ๆ ต้องมีหน้าที่การงานดี ต้องมีครอบครัวดี เมื่อเราโตขึ้น แน่นอนว่าสิ่งที่ปลูกฝังเราในวัยเด็กได้ตามมาหลอกหลอนเราให้เดินตามเส้นทางเหล่านั้น แต่ถ้าใครทำไม่ได้ ก็จะถูกปัดตกไปให้กลายเป็นคนธรรมดา ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือการถูกมองว่าเป็นคนที่ล้มเหลว และนั่นทำให้เรารู้สึกแย่กับชีวิตตัวเอง มองว่าเราเป็นคนที่ไม่ดีพอที่จะประสบความสำเร็จอย่างคนอื่น
นั่งพักสักนิด หายใจเข้าลึก ๆ และคิดตามนะ โลกนี้เต็มไปด้วยความแตกต่างหลากหลายและความเป็นไปได้มากมาย ความสำเร็จที่ใคร ๆ มองว่ายิ่งใหญ่ ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเราถามถึงสิ่งที่ใจเราต้องการ ความสำเร็จแบบนั้นอาจไม่มีค่ากับเราก็ได้ เพราะเราต่างมีมุมมองต่อคำว่า “ความสำเร็จ” แตกต่างกัน การได้กินของอร่อย ๆ ในทุก ๆ วันก็นับว่าเป็นความสำเร็จได้ สำหรับบางคนการได้พักผ่อนและนอนหลับเต็มอิ่มในทุก ๆ คืนถือป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ บางคนอาจให้คุณค่ากับครอบครัว การได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุขในทุก ๆ วันก็อาจเป็นความสำเร็จก็ได้เช่นกัน หรือสำหรับบางคน การยังมีลมหายใจอยู่ตรงนี้ ยังได้ใช้ชีวิตต่อไปในวันพรุ่งนี้ ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จแล้ว
ความสำเร็จเล็ก ๆ ก็นับว่าเป็นความสำเร็จ หลาย ๆ คนอาจยังมองไม่เห็นมันเพราะยังไปโฟกัสกับความสำเร็จก้อนใหญ่อยู่ หากการไล่ล่าความสำเร็จก้อนใหญ่ทำให้เรารู้สึกเป็นทุกข์มากกว่าเป็นสุข ลองพักจากมัน ให้เวลากับตัวเองได้หายใจ และถามตัวเองอีกครั้งว่า “ความสำเร็จที่เราต้องการเป็นแบบไหนกันแน่” ไม่ต้องรีบร้อนกับการหาคำตอบ บางคนอาจใช้เวลาไม่นาน แต่บางคนอาจใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตอบคำถามนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่เราใช้เวลามากกว่าคนอื่น
ในภาษาอังกฤษมีคำใช้เรียกคนเหล่านี้ว่า “Late Bloomer” หรือ ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิตช้า ถึงแม้จะไม่รู้ความต้องการของตัวเองได้เร็วเท่าคนอื่น แต่ช้าแล้วชัวร์ และตรงกับความต้องการของเราจริง ๆ ย่อมเป็นเรื่องที่ดีไม่แพ้กัน ฉะนั้น อย่าโทษตัวเองที่ใช้เวลานานกว่าคนอื่น เพราะเราแต่ละคนต้องการเวลาในการเติบโตที่แตกต่างกันอยู่แล้ว อย่าลืมฟูมฟักและโอบกอดตัวเองให้มาก ๆ สักวันหนึ่ง เราจะเบ่งบานได้อย่างงดงามไม่แพ้คนอื่น