“Childless Society” ทำไมคนรุ่นใหม่ถึงไม่อยากมีลูก?

สังคมสมัยนี้กับสมัยก่อนแตกต่างกันมาก มีความเปลี่ยนแปลงใหญ่เล็กเกิดขึ้นมากมาย สิ่งที่เคยมองว่าดีงามเมื่อวันก่อน ในวันนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่น่าชื่นชมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เช่นเดียวกับ “ค่านิยมการมีลูก” ที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกครอบครัวต้องมี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักในการสืบทอดตระกูลกันต่อไป และเพื่อเติมเต็มชีวิตคู่ให้สมบูรณ์

จำนวนประชากรเกิดใหม่ในประเทศไทยมีแนวโน้มลดน้อยลงทุกปี เป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่ระดับโครงสร้าง เศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ของผู้คนในปัจจุบัน ที่นับวันมีแต่จะยิ่งแย่ลงและเอาแน่เอานอนไม่ได้ ทำให้หลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ตระหนักถึงความสำคัญระหว่าง “สภาพสังคม” และ ”การมีลูก” มากยิ่งขึ้น เนื่องจากการมีลูกคือการลงทุนในระดับมหาศาล และเด็กคือผ้าขาว หากเราปล่อยให้เขาซึมซับสิ่งที่ไม่ดีในสังคม แน่นอนว่า สังคมแย่ ๆ นี่แหละที่จะเป็นตัวการในการผลิตเด็กแย่ ๆ จนกลายเป็นผู้ใหญ่แย่ ๆ ในวันหน้าได้ 

นอกจากการมีลูกคือการลงทุนในทุก ๆ ด้านแล้ว การเลี้ยงดูลูกให้ดีคืออีกหนึ่งความท้ายทายสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขาตระหนักเป็นอย่างดีว่า ถ้าหากมีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ลูกอาจจดจำความรู้สึกแย่ ๆ นั้นไปตลอดชีวิต และกลายเป็นปมวัยเด็กที่จะสะท้อนปัญหาออกมาในวัยผู้ใหญ่ก็เป็นได้ ซึ่งผู้ใหญ่ในวันนี้หลาย ๆ คนก็ยังคงมีบาดแผลในใจ และเข้าใจปัญหาเรื่องปมวัยเด็กเป็นอย่างดี จนส่งผลให้ไม่อยากมีลูกด้วยเช่นกัน 

รวมถึงค่านิยมด้านเพศในการเลี้ยงลูก โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้หญิงยังคงต้องเป็นคนแบกรับความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูลูกมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่สมัยนี้ ผู้หญิงก็ออกไปทำงานนอกบ้านไม่ต่างจากผู้ชาย ทำให้คนรุ่นใหม่มองว่าถ้าหากต้องออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูกคนเดียวนั้นช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย อีกทั้งสวัสดิการลาคลอดที่มีก็ยังไม่ครอบคลุมมากพอในการช่วยแบ่งเบาภาระของคนเป็นแม่ ทำให้หลาย ๆ คนมองว่าการมีลูกนั้นรังแต่จะสร้างปัญหาให้ชีวิตเปล่า ๆ 

อีกทั้งการเลี้ยงลูกยังอาจทำให้เสียเงินและเสียเวลาในการใช้ชีวิต เพราะการเลี้ยงดูลูกให้ดีจริง ๆ ต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง บางครอบครัวอาจจำเป็นต้องซื้อสังคม ซื้อสภาพแวดล้อมในโรงเรียนแพง ๆ เพื่อเป็นการการันตีว่าลูกจะเติบโตได้ดีท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ดี ในทางกลับกัน ก็มีหลายครอบครัวที่ไม่สามารถต่อสู้กับค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้ ทำให้บางคนเลือกที่จะไม่มีลูกไปเลย

ความต้องการมีอิสระในชีวิตก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลยอดฮิตที่คนรุ่นใหม่ไม่อยากมีลูก เพราะการเลี้ยงลูกนั้นต้องใช้ทั้งเงินและเวลา หากรักษาสมดุลชีวิตส่วนตัวและเวลาเลี้ยงลูกไม่ได้ ลูกอาจรู้สึกว่าไม่ได้รับความรักอย่างเพียงพอ เกิดเป็นปัญหาครอบครัวไม่อบอุ่นอีก ดังนั้น หลาย ๆ คู่จึงเลือกตัดปัญหา เอาเวลาและเงินที่มีอย่างเหลือเฟือไปใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ดีกว่า  

เหตุผลในการมีลูกก็มีส่วนเช่นกัน คนสมัยก่อนมีลูกเพื่อให้ลูกมาเลี้ยงดูในตอนแก่ อันเนื่องมาจากสวัสดิการผู้สูงอายุในประเทศนี้ไม่สามารถเลี้ยงดูผู้สูงอายุได้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ซึ่งเป็นการบังคับลูกกลาย ๆ ว่า หากเลี้ยงชีพตัวเองได้แล้ว ต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วยนะ สำหรับบางคนการเลี้ยงดูพ่อแม่อาจเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่สำหร้บบางคน มันอาจจะเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะแต่ละคนก็มีเงื่อนไขชีวิตไม่เท่ากัน แต่ในสมัยนี้ คนรุ่นใหม่มองว่าพวกเขาควรเลี้ยงดูตัวเอง ไม่ควรเป็นภาระของใคร อีกทั้งแนวคิดรัฐสวัสดิการก็ได้ถูกนำมาพูดถึงบ่อยครั้งมากขึ้น หากรณรงค์มากขึ้นก็อาจทำให้แนวคิดนี้สามารถเป็นจริงได้ในอนาคต ดังนั้น การมีลูกจึงไม่ได้จำเป็นสำหรับคนสมัยนี้มากขนาดนั้น

สุดท้ายแล้ว จะตัดสินใจมีลูกหรือไม่มีลูกก็อยู่ที่ว่าแต่ละครอบครัวจะพร้อมรับมือกับการมีสมาชิกใหม่ในบ้านมากน้อยขนาดไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ การเลี้ยงดูลูกให้ดีเป็นเรื่องที่ยากมากจริง ๆ ขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่ทุกคนที่กำลังเลี้ยงดูลูกอย่างสุดความสามารถ